การปลูก

2. การปลูก

2.1 การเตรียมเมล็ดพันธุ์ เมล็ดพริก 1 กรัม จะมีเมล็ดประมาณ 230 – 260 เมล็ด ในพื้นที่ปลูก 1 ไร่จะใช้เมล็ดพันธุ์เพื่อเพาะกล้าประมาณ 100 กรัม หรือ 1 ขีด ซึ่งเมื่อนำไปเพาะแล้วจะได้ต้นกล้าประมาณ 5,000 ต้น ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ความงอกของเมล็ด ในพื้นที่ปลูก 1 ไร่ จะใช้ต้นกล้าประมาณ 3,200 – 3,500 ต้น

ก่อนปลูกควรเลือกพันธุ์พริกที่จะปลูกให้ตรงตามความต้องการของตลาด และมีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เมล็ดพันธุ์ที่นำมาเพาะควรมีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูงและมีลักษณะตรงตามพันธุ์ เช่น ถ้าเป็นพริกพันธุ์ห้วยสีทน 1 ควรมีผลแตงสม่ำเสมอ ขนาดของผลยาวประมาณ 3 – 5 เซนติเมตร มีรสเผ็ด เนื้อบางตากแห้งง่าย เป็นตัน หากมีเมล็ดพริกพันธุ์อื่นปนมาต้องตัดทิ้ง เมื่อเลือกพันธุ์ได้แล้วก่อนนำเมล็ดไปหว่านควรเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ไม่สมบูรณ์และเป็นโรคออก โดยนำเมล็ดพันธุ์แช่น้ำสะอาด เมล็ดพันธุ์ที่เสียจะลอยน้ำให้คัดทิ้ง จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์มาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน หรือนำไปแช่สารละลายป้องกันกำจัดเชื้อรารอบผิวเมล็ดพริก เช่น โซเดียมไฮโปคลอไรท์หรือเบนเลท ความเข้มข้นประมาณ 5 – 10 เปอร์เซ็นต์เป็นเวลาประมาณ 15 – 20 นาที จากนั้นนำไปล้างผ่านน้ำไหลอย่างน้อย 30 นาที แล้วนำไปคลุมด้วยผ้าในที่ร่มอีก 2 . 3 วัน หรือจนกระทั่งมีตุ่มรากสีขาวเล็กๆ งอกออกมาเพียงเล็กน้อยจึงนำไปหว่านในแปลงเพาะหรือกระบะเพาะ

2.2 การเพาะกล้า ในการปลูกพริกมีวิธีการปลูกได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น การหว่าน การหยอดเมล็ดโดยตรง แต่วิธีการปลูกโดยการเพาะกล้าแล้วย้ายปลูกเป็นวิธีที่นิยม เพราะได้ต้นกล้าที่แข็งแรง และใช้เมล็ดพันธุ์น้อยกว่าวิธีอื่น สามารถลดต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์และการดูแลรักษาได้มาก การเพาะเมล็ดเป็นต้นกล้าก่อนนำไปปลูกนี้ยังเป็นการกระตุ้นการงอกให้เร็วขึ้น และมีความสม่ำเสมอมากขึ้น วิธีการเพาะนั้นอาจเพาะในแปลงเพาะหรือในกระบะเพาะก็ได้ มี 3 วิธี คือ

2.2.1 กระบะเพาะ นิยมใช้ในกรณีที่ต้องการตันกล้าจำนวนไม่มากนัก การเพาะกล้าโดยวิธีนี้มีข้อดี คือ ใช้ดินจำนวนน้อย สามารถนำดินมาอบฆ่าเชื้อโรดก่อนทำการเพาะ ตากดินที่จะใช้เพาะประมาณ 3 – 4 อาทิตย์ หรือเลือกดินที่ปราศจากโรคมาเป็นส่วนผสมโดยสังเกตว่าตินนั้นปลูกพืชแล้วพืชไม่เคยเป็นโรคมาก่อนหรือเป็นดินที่ไม่เคยปลูกพืชมาก่อน

กระบะที่ใช้เพาะเมล็ดควรมีขนาดประมาณ 45 – 60 เซนติเมตร (หรือภาชนะที่พอจะหาได้) ลึกไม่เกิน 10 เซนติเมตร มีรูระบายน้ำได้ ใส่ดินที่ร่อนแล้ว 3 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน ทรายหรือแกลบ 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรับผิวหน้าดินให้เรียบ แล้วโรยเมล็ดเป็นแถว โดยการใช้ไม้ทาบเป็นร่องเล็ก ระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 5 – 7 เซนติเมตร แล้วกลบเมล็ดด้วยแกลบหรือทรายบางๆ รดน้ำให้ชุ่มและใช้สารเคมีป้องกันกำจัดแมลงผสมน้ำรดอีกทีหนึ่ง เพื่อป้องกันมดคาบเมล็ดไปกิน เมื่อเมล็ดเริ่มงอกให้ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรารดเบาๆ เมื่อดันกล้าอายุได้ 15 วัน หรือมีใบจริง 2 ใบ ให้ย้ายกล้าลงใส่ถุงพลาสติกขนาด 4 x 6 นิ้วจนกระทั่งกล้าสูงประมาณ 30 เซนติเมตร หรือมีอายุ 30 – 40 วัน จึงทำการย้ายกล้าลงแปลงปลูก โดยใช้มีดกรีดถุงให้ขาดเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือน

2.2.2 ถาดเพาะกล้า เป็นวิธีเพาะกล้าที่สะดวกและพัฒนาจากวิธีการเพาะในกระบะเพาะ ถาดเพาะจะมีหลายขนาด เช่น 72 หลุม 104 หลุม เป็นตัน ขึ้นกับความต้องการของผู้เพาะ: โดยนำดินสำหรับเพาะกล้าใส่ในถาดหลุมให้เต็มพอดี เพาะกล้าหลุมละ 1 เมล็ด แล้วโรยดินกลบบางๆ เมื่อต้นกล้ามีอายุได้ประมาณ 20 วัน จึงเตรียมย้ายปลูกลงแปลง โดยใช้มือบีบด้านล่างสุดของถาดหลุม ต้นกล้าจะหลุดออกมาจากถาดพร้อมดินปลูกทำให้ต้นกล้าพริกไม่ได้รับความกระทบกระเทือนมากนัก

2.2.3 แปลงเพาะ นิยมใช้ในกรณีที่ต้องการต้นกล้าเป็นจำนวนมาก

– การเตรียมดินสำหรับแปลงเพาะกล้า พื้นที่เพาะกล้าควรเป็นพื้นที่ที่ไม่เคยปลูกยาสูบ มะเขือ มะเขือเทศ และมันฝรั่งมาก่อน และแปลงเพาะกล้าควรเป็นดินร่วนซุยระบายน้ำได้ดี ถ้าแปลงเพาะกล้าเป็นดินทรายควรใส่ปูนขาวก่อนเตรียมแปลง ถ้าเป็นดินทรายที่ดอนและไม่เคยมีการเพาะปลูกพืชมาก่อนอาจจะมีปัญหาเรื่องไส้เดือนฝอยซึ่งทำให้เกิดโรครากปมดังนั้นควรได้ตรวจดูให้แน่ใจเสียก่อนหากมีปัญหาดังกล่าวไม่ควรใช้พื้นที่บริเวณนั้นเป็นแปลงเพาะกล้าพริก แปลงเพาะกล้าพริกควรกว้างประมาณ 1 เมตร ส่วนความยาวตามความเหมาะสม ควรขุดหรือไถดินให้ลึกประมาณ 15 เซนติเมตร ใส่ปูนขาวประมาณ 125 กรัมต่อตารางเมตร คลุกเคล้าให้เข้ากัน พรวนย่อยผิวหน้าดินให้ละเอียด และเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินในแปลงเพาะกล้าควรใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในอัตรา 400 – 500 กรัมต่อเนื้อที่ 5 ตารางเมตร แล้วพรวนกลบลงในดิน เกลี่ยหน้าดินให้เรียบพร้อมที่จะนำเมล็ดมาเพาะ

2.3 การดูแลรักษาต้นกล้า

2.3.1 การทำร่ม การเพาะพริกในกระบะหรือถาดเพาะมักเพาะในโรงเรือน การเพาะในแปลง ควรทำร่มให้ด้วย ตาข่าย ผ้าดิบ หรือทางมะพร้าวก็ได้ เพื่อป้องกันแดดขณะที่ต้นกล้าเล็ก นอกจากนั้นแล้วยังช่วยป้องกันลมและฝนด้วย การให้ร่มนี้ต้องเปิดให้ตันกล้าได้รับแสงแดดด้วย เพื่อไม่ให้ตันสูงชลูดเกินไป

2.3.2 การให้น้ำในแปลงเพาะกล้า ในช่วงแรกๆ ควรให้วันละ 2 ครั้ง คือเช้าและเย็น เมื่อต้นกล้าเริ่มเจริญแล้วอาจจะรดน้ำเพียงวันละครั้ง หรือ 2 – 3 วันต่อครั้ง และเมื่อตันกล้ามีใบจริง 2 – 3 ใบ ให้เอาฟางที่คลุมแปลงออก ในระยะที่ตันกล้ากำลังเจริญเติบโตให้รดด้วยปุ๋ยยูเรีย 1 ช้อนผสมน้ำ 20 ลิตร เพื่อให้ตันกล้าเจริญเติบโตแข็งแรงขึ้น

2.3.3 การทำให้กล้าแข็งแรงก่อนย้ายกล้า เพื่อให้ต้นกล้าสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี โดยลดการให้น้ำและให้ตันกล้าได้รับแสงแดดเพิ่มในระยะ 1 สัปดาห์ก่อนย้ายปลูก เมื่อตันกล้าอายุประมาณ 30 – 40 วัน ก็สามารถย้ายลงแปลงปลูกได้

2.4 การเตรียมแปลงและการเตรียมดินสำหรับการปลูกพริกในการทำการเกษตรเพื่อจะให้ประสบผลสำเร็จ การคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการและการเตรียมแปลงในตอนเริ่มตันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น ผู้ปลูกควรพิจารณาการเตรียมพื้นที่เป็นขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

2.4.1 การเตรียมการระบายน้ำของแปลงปลูก

ในสภาพของพื้นที่ปลูกที่เป็นที่ลุ่ม เช่น ในภาคกลาง จะมีปัญหาในเรื่องการระบายน้ำ เมื่อมีฝนตกหนักหรือน้ำท่วม หรือมีระดับน้ำได้ดินสูง ซึ่งทำให้ไม่สะดวกในการเตรียมดินและไม่เหมาะสมต่อการเจริญเดิบโตของพืชผักทั่วไป วิธีการแก้ไขอาจทำได้โดยการขุดคลองหรือฝังท่อระบายน้ำ พร้อมทั้งยกแปลงปลูกให้สูงจากระดับน้ำ อาจสร้างคันหรือเขื่อนกั้นน้ำ พร้อมติดเครื่องสูบน้ำออก

2.4.2 การเตรียมรูปแปลงปลูก

การเตรียมดินปลูกพริกในแต่ละแหล่งของไทยนั้น นอกจากมีการเตรียมขนาดแปลงและจัดระยะปลูกแตกต่างกันออกไป ดังนี้

– การเตรียมแปลงในสภาพดินเหนียว ในสภาพดินเหนียวภาคกลางที่ระดับน้ำได้ดินสูง ควรเตรียมแปลงขนาดกว้าง 4 – 6 เมตร ความยาวไม่จำกัดขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ ร่องน้ำกว้าง 1 เมตร ลึก 0.5 – 1.0 เมตร ซึ่งเหมาะสำหรับใช้เรือบรรทุกเครื่องสูบน้ำเข้าไปให้น้ำได้สะดวก

– การเตรียมแปลงในเขตชลประทานโดยให้คูส่งน้ำอยู่ทางหัวแปลงและดูระบายน้ำอยู่ทางท้ายแปลงแล้วปรับระดับดูส่งน้ำระหว่างแปลงให้มีความลาดเทพอสมควร เพื่อความสะดวกในการให้น้ำ โดยยกแปลงขนาด 80 เซนติเมตร ร่องน้ำกว้าง 25 เซนติเมตร โดยยกแปลงสูงประมาณ 15 เซนติเมตร ความยาวแปลงประมาณ 20 เมตร

– การเตรียมแปลงในเขตอาศัยน้ำฝน เลือกพื้นที่ซึ่งระบายน้ำได้ดี แล้วทำการเตรียมดินปลูก

2.4.3 การกำหนดระยะปลูก ใช้ระยะระหว่างตันและระหว่างแถว 50 x 50 หรือ 50 x 80 เซนติเมตร

2.5 การย้ายปลูก

2.5.1 ย้ายกล้าปลูกลงในแปลง ที่ได้เตรียมดินไว้เรียบร้อยแล้ว สำหรับการย้ายกล้าลงแปลงปลูกนี้ ต้องเลือกต้นกล้าที่มีลักษณะดี คือ ต้นกล้ามีความแข็งแรงปราศจากโรคและแมลงรบกวน ถ้าเป็นการย้ายกล้าจากแปลงเพาะหรือแปลงชำมาลงปลูกโดยตรง ควรย้ายปลูกในเวลาที่มีอากาศไม่ร้อน คือ ช่วงเย็นหรืออากาศครึ้ม อายุกล้าที่ย้ายปลูกควรมีอายุ 30 – 40 วัน หรือความสูงประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร มีใบจริงประมาณ 5 ใบ ก่อนย้ายปลูก 2 – 3 วัน ควรงดน้ำเพื่อให้ตันกล้าแข็งแรง ก่อนถอนกล้า 1 ชั่วโมง ควรรดน้ำในแปลงเพาะกล้าให้ชุ่มก่อนแล้วใช้เสียมแซะด้านข้างๆ แถว และควรทำในเวลาบ่ายถึงเย็น แสงแดดไม่ร้อนจัด เมื่อย้ายเสร็จแล้วรดน้ำตามทันทีแล้วคลุมกล้าด้วยกรวยหรือใบไม้ 3 – 4 วัน จะทำให้กล้าตั้งตัวเร็วขึ้น

2.5.2 การย้ายกล้าจากถุงลงแปลงปลูก ควรระวังเวลาฉีกถุงพลาสติกออกอย่าให้ดินแตก โดยวางต้นกล้าลงกลางหลุมแล้วใช้ดินที่ปากหลุมกลบโคนตัน ควรกลบดินโคนตันให้แน่น ระวังอย่าให้รากลอยจะทำให้พริกโค่นล้มได้ง่ายทั้ง 2 วิธี หลังจากปลูกเสร็จให้รดน้ำตามทันทีจะทำให้ตันกล้าตั้งตัวเร็วและตายน้อย หลุมที่ปลูกขุดลึก 1 หน้าจอบ (ขนาด 30 x 30 x 30 เซนติเมตร) อาจจะปลูกเป็นแถวคู่หรือแถวเดี่ยว แถวคู่ใช้ระยะระหว่างแถวคู่ 120 เซนติเมตร ระหว่างแถว 80 เซนติเมตร และระหว่างตัน 50 เซนติเมตร ถ้าปลูกเป็นแถวเดี่ยว ใช้ระยะระหว่างแถว 100 เซนติเมตร ระหว่างตัน 50 เซนติเมตร ทั้ง 2 วิธี ใน 1 ไร่ ปลูกได้ 3,200 ตัน

ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร

Recent Posts