กรรมวิธีผลิตเส้นใยจากกัญชง

กรรมวิธีผลิตเส้นใยจากกัญชง – กัญชงเป็นพืชเส้นใยประเภท Long Bast Fiber ที่เหนียวที่สุดในโลก ข้อมูลจากรายงานวิจัยจาก Washington States University ได้ระบุว่าเส้นใยเฮมพ์(Hemp fiber) มีความยาวเฉลี่ย 36 มิลลิเมตร มีความยืดหยุ่น (Tensility) สูงถึง 18,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว การเก็บเกี่ยวไม่ยุ่งยากมากนัก เมื่อกัญชงต้นแก่อายุครบการเก็บเกี่ยว จะตัดเอามาทั้งต้น นำเอาต้นกัญชงมาลอกเอาแต่เปลือก นำมาตากแดดให้แห้ง แล้วมัครวมกัน จากนั้นจึงนำเอาเปลือกกัญชงที่ตากแห้งไว้มาแช่น้ำ ให้เปลือกยุ่ย แล้วดึงเอาเส้นใยไปย้อมสี และนำมาทอเป็นผ้าต่อไป
จากข้อมูลของ สมท. กล่าวว่า ประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน ต้นกัญชงจะมีความสูง ประมาณ 3 เมตร ในดินที่มีความความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง มีเส้นรอบวงที่โคนต้นประมาณ 3.5-4 เซนติเมตร (วัดจากลำต้นที่สูงจากพื้นดินประมาณ 12 ซม.) วิธีเก็บเกี่ยวจะใช้มีคคมตัดที่โคนต้นกัญชง(ในบริเวณที่วัดเส้นรอบวงซึ่งสูงประมาณ 12 ซม. จากพื้นดิน) ริกึ่ง(หากมีกิ่ง) ออกให้หมดและรอนทิ้งส่วนยอดของลำต้นที่อ่อนและมีสีเขียวตัดออกไป จากนั้นจึงรวบรวมมัดเป็นฟ้อนแล้วนำกลับบ้าน การตัดต้นกัญชงไม่จำเป็นจะต้องตัดหมดทั้งกอหรือหมดทั้งแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม (ความแก่อ่อน)ของข้อที่จะทำการตัด และจากคำบอกเล่าของชาวเขาเผ่าม้ง กล่าวว่า เส้นใยที่ได้จากต้นกัญชงแก่นั้นมีคุณภาพต่ำไม่เหมาะที่จะเอาไปใช้ในการทอผ้า

ต้นกัญชงที่ถูกตัดจะถูกนำเอามาตากแดดจนแห้งสนิท หากว่าในช่วงนั้นมีฝนตกหนักก็จะนำต้นกัญชงที่ตัดมาไปย่างไฟให้แห้ง ซึ่งจะใช้เวลาในการย่างประมาณ 6-7 วัน เมื่อต้นกัญชงแห้งแล้ว ก็จะนำไปวางกองทำแนวตั้งกับพื้นภายในบริเวณบ้านที่ไม่มีความชื้นสูง เพราะหากมีความชื้นสูงจะทำให้ต้นกัญชงเกิดเชื้อราที่เปลือกนอก จะลอกเปลือกออกจากลำต้นยาก และเส้นใยที่ได้ยังมีคุณภาพต่ำเปื่อยง่ายไม่เหมาะกับการทอเป็นผ้าจากนั้น จึงนำต้นกัญชงมาปอกเปลือกเพื่อลอกเอาเส้นใยกัญชงออกจากลำต้นนั้น ใช้วิธีนำต้นกัญชงมาหักตอนกลางลำต้นหลายๆแห่งให้ขาดจากกันแล้วจึงใช้มือลอกเปลือกลำต้นออก เพื่อให้ได้เส้นใยที่มีขนาดใกล้เคียงกันโดย ชาวเขาจะแบ่งเปลือกลำต้นออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน แล้วจึงลอกเปลือกออกจากลำต้น เส้นใยที่ลอกในช่วงนี้จะเป็นแผ่นยาวๆ สีเขียว เมื่อลอกเปลือกได้จำนวนหนึ่งก็จะนำมามัดรวมกันและเก็บไว้ในที่แห้งโดยไม่ให้สัมผัสความชื้นอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้เพราะการย่างเปลือกที่ลอกออกจากลำต้นอีกครั้งจะทำให้เสียคุณภาพ และไม่สามารถนำเอาไปผ่านวิธีกรรมให้เป็นด้ายทอผ้าได้ เพราะเส้นใยจะกรอบ เปื่อย แต่ก็ยังสามารถเอาเปลือกที่ผ่านการย่างนี้มาฟั่นเป็นเชือกใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้

เปลือกของลำต้นกัญชงที่แห้งสนิทจะถูกนำมาฉีกออกเป็นเส้นเล็กๆ เพื่อที่จะให้ได้เส้นค้ายที่มีขนาดเล็กเหมาะกับการทอผ้า โดยทั่วๆ ไป เส้นใยที่ถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วนนั้น จะสามารถฉีกออกเป็นเส้นใยขนาดเล็กประมาณ 16-20 เส้น หลังจากนั้นนำเส้นใยไปตำในครกกระเดื่องเพื่อให้เปลือกนอกที่หุ้มติดกับเส้นใยหลุดออกไป เหลือแต่เส้นใยแท้ๆ ซึ่งจะอ่อน สะดวกแก่การปั่นและกรอในขบวนการต่อไป เส้นใยที่ผ่านการตำเอาเปลือกออกจะถูกนำเอามาพันม้วนเป็นก้อนโดยใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีลักษณะเป็นไม้ขนาดนิ้วก้อยเป็นแกน และมีที่ถือทำด้วยหวายถัก ขณะที่ถูกนำมาม้วนพันแกนไม้จะมีการต่อเส้นใยแต่ละเส้น โดยใช้นิ้วขยี้ส่วนปลายให้ต่อติดเป็นเนื้อและเส้นเดียวกันเมื่อเส้นเต็มแกนแล้วก็จะถอดม้วนเส้นใยเก็บไว้ ทำเช่นนี้จนเส้นใยที่มีอยู่ถูกนำมาม้วนเป็นก้อนหมด จากนั้นจึงนำก้อนเส้นใบไปจุ่มน้ำร้อนให้เส้นใยอ่อนตัวแล้วจึงนำเอาเส้นใยไปเข้าเครื่องกรอแบบของชาวม้งที่มีแกนด้ายอยู่ 4 แกน เมื่อกรอเส้นใยเข้าจนเต็มแกนแล้วจะนำเส้นใยเข้าในเครื่องปั่นเส้นใยแบบชาวม้ง เส้นใยที่ผ่านการปั่นจากเครื่องจะถูกกองวางอย่างเป็นระเบียบเป็นรูปวงกลมกับพื้นดิน ซึ่งเมื่อได้ขนาดตามที่ต้องการก็จะใช้หวายมัดเพื่อป้องกันไม่ให้เส้นใยพันกันยุ่งเหยิงในระหว่างขั้นตอนเหล่านี้ หากเกิดมีเส้นใยขาดจากกันจะมีการต่อเส้นใยให้เป็นเส้นเดียวกันตลอดเวลา เส้นใยแต่ละมัดที่ได้แล้วจะถูกนำไปต้มเคี่ยวในน้ำต่าง(น้ำขี้ถ้า ในกระทะใบบัวเป็นเวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง แล้วจึงนำเอาเข้าไปหมักในขี้เถ้าเปียกอีกประมาณ 2-3 วัน เมื่อผ่านการหมักแล้วเส้นใยละมัดจะถูกนำมาซักล้างด้วยน้ำจนดูว่ามีสีขาวสะอาด(สีของเส้นใยธรรมดาจะไม่เป็นสีขาวบริสุทธิ์) หากยังเห็นว่าเส้นใยยังมีสีไม่สะอาดก็จะนำเข้าไปหมักในขี้เถ้าเปียกและนำมาซักอีกครั้งหนึ่ง เส้นใยที่ซักจนสะอาดแล้วจะถูกนำเข้าเครื่องรีดที่ซึ่งประกอบด้วยท่อนไม้กลมและก้อนหินแบน โดยนำเอามัดเส้นใยไปวางบนขอนไม้ที่นอนอยู่บนพื้นดิน แล้วเอาก้อนหินขึ้นทับ ซึ่งผู้รีดจะต้องขึ้นไปยืนบนก้อนหิน ถ่างขาเหยียบส่วนปลายของก้อนหินทั้งสองข้างแล้วทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเท้าแต่ละข้างในเวลาที่สม่ำเสมอคล้ายกับการเล่นไม้กระดก (seesaw ) เส้นด้ายจะถูกบดอยู่ระหว่างท่อนไม้และแผ่นหินคล้ายๆ กับการบดด้วยลูกกลิ้ง (roller) ในระหว่างการรีดต้องระวังอย่าให้เส้นใยแห้ง ต้องหมั่นใส่น้ำให้เปียกชื้นอยู่เสมอเพราะถ้าแห้งไป เส้นใยจะถูกบดจนขาดจากกันเสียหายได้ หลังจากรีดจนแน่ใจว่าเส้นใยที่ได้อ่อนนุ่มตามที่ต้องการแล้ว ก็จะนำเอาไปซักน้ำล้างทำความสะอาดอีกเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนำไปตากให้แห้งสนิท นำเอาไปเข้าเครื่องปั่นให้เป็นเส้นด้าย เส้นด้ายที่ออกจากเครื่องปั่นจะถูกวางเรียงอย่างเป็นระเบียบในกระบุงแล้วมัดเพื่อให้ได้ขนาดที่ต้องการ แล้วจึงนำไปเก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการทอผ้าต่อไป

ที่มา : สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

Recent Posts