การดูแลรักษา
1. หลังจากปลูกแล้วประมาณ 7 – 15 วัน ถ้าพบนกล้าที่ปลูกตายหรือเมล็ดไม่งอกควรปลูกซ่อมทันที
2. หลังจากปลูกแล้วประมาณ 30 -45วัน ถ้าพบว่าตันกล้าขึ้นหนาแน่นเกินไปควรทำการถอนแยกไปปลูกในแปลงอื่น เพื่อให้ตันกล้าที่ขึ้นสมบูรณ์เต็มที่ ไม่แย่งอาหารกัน
3.ถ้าพื้นที่ปลูกเป็นที่โล่งแจ้ง ลมพัดแรง แดดจัด ฝนตกชุก ควรคลุมแปลงปลูกด้วยฟางข้าวหรือใบหญ้าแห้ง โดยคลุมบางๆ เพื่อช่วยพรางแสง ลดการชะล้างของน้ำ และช่วยรักษาความชื้นในดิน
4. ให้น้ำทันทีหลังปลูกพืช และในระยะ 12 เดือนแรกหลังปลูกควรให้น้ำวันละ1-2 ครั้ง หลังจาก 2 เดือนไปแล้ว อาจให้น้ำวันเว้นวันหรือตามความเหมาะสมของสภาพพื้นที่และสภาพอากาศ
5. ควรใส่ปุ๋ยเมื่อดินขาดความอุดมสมบูรณ์ โดยแบ่งเป็นระยะๆ ดังนี้
- ใส่ปุ๋ยอินทรีย์รองพื้นที่แปลงประมาณ % -1กิโลกรัม ต่อพื้นที่1 ตารางเมตร
- หลังปลูกอายุประมาณ 2 เดือน ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 16 -20 -0 หรือ 15-15-15 ประมาณ 100 กร้ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร
- หลังปลูกอายุประมาณ 3 เดือน ถึง 3 เดือนครึ่ง ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15 -15 -15 หรือ 30-20-10 ประมาณ 150 – 200 กรัม ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร
6. การกำจัดวัชพืช โดยการถอนหรือใช้เครื่องมือช่วย แล้วแต่สภาพการปลูก และควรทำการพรวนดินเข้าโคนต้นไปพร้อม ๆ กัน
7. การกำจัดโรคและแมลง ถ้าพบโรคและแมลง เช่นโรคโดนเน่าและรากเน่าโรคแอนแทรคโนส มด และไร เป็นต้นให้ดำเนินการป้องกันกำจัดโดยการเก็บทำลาย หรือใช้สารเคมีตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร
ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร